แอพจดโน้ตกับ iPad เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมานานตั้งแต่ iPad เปิดตัวแรกๆ ไม่ว่าจะเป็น Penultimate, iAnnotate, etc หรือแอพน้องใหม่แบบ Noteshelf แต่ถ้าจะพูดถึงแอพที่ผู้ใช้นิยมใช้กันมากคงหนีไม่พ้น Goodnotes ที่เพิ่งเปิดตัว Goodnotes 5 ไปหยกๆ และ Notability
วันนี้ในฐานะนิสิตแพทย์ที่ต้องใช้ iPad พร้อมแอพเหล่านี้ในการเรียนทุกวันและต้องการหาแอพจดโน้ตที่ดีที่สุด หลังจากผ่านการใช้งานอย่างโชกโชนเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม ก็คิดว่าเราน่าจะเขียนวิเคราะห์เปรียบเทียบสองแอพนี้ให้ทุกคนได้เลือกซื้อไปใช้ได้เหมาะสม
มาเริ่มที่หัวข้อแรกหรือหน้าตาแอพ เกี่ยวกับลักษณะการจัดการไฟล์
หน้าแรกจะแบ่งเป็นสองคอลั่ม เป็นส่วนของหัวข้อโฟลเดอร์ต่างๆ ส่วนอีกหนึ่งคอลั่มจะเป็นไฟล์โน้ตบันทึกต่างๆของเรา
ไม่สามารถสร้าง Sub-folder ได้ มีตัวแบ่ง division ให้เราแยกรายวิชาต่างๆออกจากกันได้ ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ยืดหยุ่น ถือว่าเป็นข้อเสียหลักของ Notability สำหรับคนที่มีโน้ตเยอะๆในวิชาต่างๆไม่สามารถแบ่งจัดสรรให้เป็นระเบียบได้ง่าย
ระบบจัดการไฟล์ลักษณะจะเป็นเหมือน Folder ในคอมพิวเตอร์ ให้เราสร้าง Sub-folder ได้ไม่จำกัด มีปุ่ม Favorite โน้ต จัดประเภทโน้ตได้ง่าย
ทั้งสองแอพสามารถ Sort โน้ตตามชื่อ, Modified date, Created date ได้ซึ่งมีประโยชน์มากหากอาจารย์แจกไฟล์แล้วไม่ต้องทำการแก้ไขชื่อไฟล์ ใช้ฟังก์ชั่น Sort by Created date ลิสตั้งแต่ที่สอนวันแรกไปวันสุดท้ายตามวันที่เราเพิ่มโน้ตเข้ามาในแอพได้ทันที
พูดถึงฟังก์ชั่นที่สำคัญที่สุดของแอพจดโน้ต
Notability จะมีแถบเครื่องมือด้านล่าง 1 แถบ ไม่สามารถซ่อนได้ ความหนาของแถบเครื่องมือน้อยกว่า Goodnotes 5 ไม่เกะกะสายตา ไม่มี Shortcut ในการเปลี่ยนสีหรือความหนาปากกา อนึ่งการไม่มี Shortcut นั้นไม่ใช่ปัญหามากนัก เพราะในการใช้งานจริง เราแทบไม่ได้เปลี่ยนสีหรือขนาดปากกาเลย แค่จดให้ทันกันก่อน
สามารถวาดวงกลม หรือสี่เหลี่ยมได้ แต่ต้องทำการจดปลายปากกาค้างไว้ ซึ่งผมคิดว่าไม่ค่อยสะดวกเท่าไร แต่เป็นฟีเจอร์ที่ไม่ค่อยใช้ในชีวิตประจำวัน หรือถ้าต้องการเพิ่มรูปทรง Shape ต่างๆ Notability มีปุ่ม add Figure ที่ให้เราวาด ■ ◁ ○ได้เต็มที่
ในส่วนของ Lasso ในแอพ Notability นั้นสามารถหมุน Object และขยายได้เลย ไม่ต้องกดเมนูเพิ่มเติมแต่อย่างไร
และสามารถ Zoom-out เพื่อเห็นภาพใหญ่ของหน้ากระดาษนั้นได้ ตรงนี้เป็นฟีเจอร์ที่ผมอยากได้และรีเควสลงไปที่หน้าเว็บ Notability โดยตรง และไม่นาน ก็ได้ใช้จริงๆ
ปากกา Highlight ในแอพ Notability ไม่เพิ่ม Contrast ให้ตัวหนังสือเหมือนกับ Goodnotes และในการ Highlight ให้เส้นตรงนั้น ต้องทำการค้างปลายปากกาไว้ระยะหนึ่ง ผมนับให้เป็นข้อเสียของแอพ Notability หลักๆ และคนส่วนใหญ่ไม่ชอบตรงนี้
ทั้งสองแอพสามารถนำแถบเครื่องมือมาวางไว้ด้านล่างได้เหมือนกัน (ชอบเป็นส่วนตัวเพราะไม่เกะกะสายตา และนำแถบเวลา และวันที่ออก เพิ่มพื้นที่สายตา และไม่ Distract ในการเรียน)
(Notability ตั้งค่าได้โดยใช้ Left-handed mode)
ในส่วนของการซูมลงไปจดในที่เล็กๆ Notability สามารถทำได้ โดยภาพไม่แตก อาจมีปัญหาโหลดช้าในจุดที่ซูมลงไปลึกๆบ้าง แต่ยังทำได้ดี กลับกันในส่วนของ Goodnotes 5 ที่ซูมลงไปอ่านข้อความเล็กๆไม่ได้เลย (เบลอ)
ในแถบเครื่องมือ Goodnotes 5 มี Shortcut เลือกเปลี่ยนสี ขนาดปากกา ยางลบต่างๆได้ มีฟังก์ชั่นวาดรูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ได้โดยง่าย เป็นข้อได้เปรียบเล็กๆของ Goodnotes 5
มีปากกา Highlight ที่เพิ่ม Contrast ให้ตัวหนังสือและทำให้เส้นตรงได้ง่าย
แต่ Lasso ของ Goodnotes นั้นทำได้แค่ย้ายวัตถุ ต้องกดเมนู Resize ก่อนถึงจะหมุนได้
มีปุ่มกดดู Overview โน้ตได้คล้าย Powerpoint เป็นข้อได้เปรียบของ Goodnotes
เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ เราไม่ควรเอาชีวิตการเรียน หรือการทำงานไปเสี่ยงกับเครื่องมือที่มีความไม่แน่นอน แต่ปัญหานี้อาจจะค่อยๆแก้ใน Update ถัดๆไป
ในส่วนนี้จะพูดถึง Killer-features ที่ผมคิดว่าเป็นฟังก์ชั่นสำคัญที่เป็นข้อดีของแต่ละแอพที่กินกันไม่ลง ต้องสลับมาใช้
ยกให้ฟังก์ชั่นการบันทึกเสียง และ Split view เป็น Killer feature ที่ชนะ Goodnotes แบบขาดลอย
ฟังก์ชั่นบันทึกเสียงนั้น เท่าที่เล่นมาในหลายๆแอพจดโน้ตนั้น มีเเพียง Notability ที่บันทึกเวลาในการจรดปลายปากกาของเราพร้อมกับเสียงที่บันทึก เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเราจดโน้ตอะไรแล้วเราไม่เข้าใจก็เพียงแค่จิ้มจึ๊ก เราก็จะได้ยินเสียงที่ผู้บรรยายพูด ณ เวลาที่เราจรดปากกาเลย เหมาะกับการเรียนในวิชาที่อาจารย์ไม่อัด E-learning และจดสัมภาษณ์ต่างๆมากๆ
Split view นั้นสามารถแบ่งหน้าจดโน้ตเป็นสองหน้าได้ เพราะฉะนั้นเราสามารถดูข้อสอบ กับเฉลยข้อสอบและตรวจไปพร้อมๆกันได้ โดยไม่ต้องสลับ Tab เหมือน Goodnotes ซึ่งนับว่าสะดวกมากๆๆๆๆๆๆๆ
ยกให้ฟังก์ชั่นกระดาษ ปกที่หลากหลาย และการเพิ่มหน้าใหม่ด้วยรูป เป็น Killer Feautres ของ Goodnotes
ในส่วนของปก และกระดาษก็คงมีคนให้ความสำคัญมันเยอะ ซึ่ง Goodnotes 5 มี template มาให้มหาศาล ไม่ว่าจะเป็น Cornell note taking, Monthly Planner หรือปกลายสวยๆ รวมถึงถ้าไม่พอใจก็ยังสามารถเพิ่มเข้าไปได้เองอีกด้วย ตรงกันข้ามกับ Notability ที่มีรูปแบบให้เลือกน้อย(สีขาว ดำ เส้น grid เส้นตาราง) แต่กระนั้น Official template ของ Goodnotes 5 ไม่มีพื้นหลังดำ ดังนั้นหากใครที่ชอบใช้ Dark mode ในการเรียน อาจแสบตากับสีกระดาษก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ Notability
แต่ในส่วนที่ผม(และหลายคน)ชอบใน Goodnotes 5 ก็คือการเพิ่มหน้าใหม่ด้วยรูปทั้งรูป ฟังแล้วอาจเฉยๆ แต่เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้บ่อยเมื่ออาจารย์ไม่แจกสไลด์ สามารถยกกล้องขึ้นถ่ายและกลายเป็นหน้าใหม่ทั้งหน้าได้เลย สะดวกมากๆ
ตรงนี้บางคนอาจไม่ให้ความสำคัญเท่าไร แต่ทั้งสองแอพนั้นมี (หรือกำลังจะมี) แอพบนคอมพิวเตอร์ซึ่งผมเป็นคนที่ชอบอ่านบนจอคอมมมากกว่าเพราะไม่ต้องก้มคอตอนอ่าน
ในส่วนของ Notability นั้นมีแอพให้โหลดใน App Store มานานแล้ว และมีความเสถียร ซิงค์กับ iCloud ได้โดยอัตโนมัติ
แต่ในส่วนของ Goodnotes 5 นั้น ปัจจุบันยังไม่มีแอพบน Mac App Store แต่กำลังจะมี (อนึ่งผมได้ลองลงทะเบียนเป็น Beta User ของ Goodnotes 5 Desktop แล้ว ใช้ได้ดีทัดเทียม Notability Desktop ทีเดียว)
ในส่วนของ Notability นั้นมี One-way Backup ให้สามารถ Backup ไฟล์ PDF ขึ้น Dropbox หรือ Google Drive มาอ่านบนคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องซื้อแอพ ซึ่งถ้าเราไม่ได้ต้องการแก้ไขอะไรบนคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ Notability มาใช้ก็ได้ (ตรงนี้ Goodnotes ไม่มี หากต้องการอ่านโน้ตบนคอมต้องซื้อแอพขายแยกต่างหากเท่านั้น)
ทั้ง Goodnotes 5 และ Notability นั้นต่างเชื่อม iCloud ได้อยู่แล้ว ทำให้ไม่ว่าเราจะยืนรอบีทีเอสอยู่ เราก็สามารถหยิบโทรศัพท์และเปิดแอพมาอ่านที่เราเพิ่งจดเลคเชอร์ในห้องได้ ไม่ต้อง Airdrop ข้ามไปมาให้ยุ่งยาก แต่ในพาร์ทนี้จะพูดถึง One way backup สำหรับผู้ไม่ใช้ iCloud ว่าจะเหลือวิธี Backup อย่างไรบ้าง
ข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งที่ Notability มีเหนือ Goodnotes 5 คือระบบ Auto backup ที่สามารถเชื่อม Google Drive, Dropbox, etc และทำการ Backup เป็นไฟล์ pdf หรือตามที่กำหนดได้ ตรงนี้ส่วนที่ผมใช้ก็คือนั่งที่คอมห้องสมุดคณะจอนึงเปิดไฟล์เลคเชอร์ที่ต้องการอ่านจาก Google drive บนจอคอม พร้อมกับอ่านสรุปประกอบใน iPad ก็ทำได้
แต่ในส่วนของ Goodnotes5 ปัจจุบันนั้นยังไม่มีระบบ Auto Backup มีแต่การกด Export ทั้งหมดเพื่อส่งไปแอพอื่นเท่านั้น ดังนั้นก็คือหากใครต้องการอ่านที่เราจดบนคอมหรือที่อื่นที่ไม่ได้รันอุปกรณ์ iOS ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากกด Export เท่านั้น
Goodnotes 5 กับ Notability มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แม้ว่า Goodnotes 5 จะมีฟีเจอร์เยอะกว่าไม่ว่าจะปากกาไฮไลต์ การวาด Shape หรือเพิ่มหน้าใหม่ด้วยรูป แต่ Goodnotes 5 ณ ขณะนี้เหมาะกับการใช้งานเป็นสมุดโน้ตเล่มนึงมากกว่านำมาจดเลคเชอร์ หรือ annotate PDF ด้วยเรื่องของความเร็ว ความเสถียร การ Backup ดังนั้นผมคิดว่าหากต้องซื้อแอพเพื่อจดโน้ตคู่กับปากกา Apple Pencil แล้ว Notability เป็นแอพจดโน้ตที่เหมาะสมกับคนส่วนใหญ่ที่สุด
Notability เป็นแอพที่ผมคิดว่ามีความเสถียรต่อการใช้ในชีวิตประจำวัน และฟังก์ชั่นเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งรวมถึง Auto Backup และ Split View ที่ได้ใช้บ่อยมากๆ หากเลือกซื้อได้ ผมแนะนำให้ซื้อ Notability เย่เย่
ชอบบทความนี้รึเปล่า?
กดทวิตเป็นกำลังใจ 🤟